Stablecoins คืออะไร?
Stablecoins เป็นสกุลเงินดิจิทัลประเภทใหม่ที่พยายามนำเสนอราคาที่มีเสถียรภาพและได้รับการหนุนหลังโดยสินทรัพย์สำรอง Stablecoins ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีเป้าหมายที่จะผสมผสานข้อดีของทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน: การทำธุรกรรมสกุลเงินดิจิทัลที่มีความรวดเร็วและปลอดภัย และมูลค่าที่มีความเสถียรและปราศจากความผันผวนของสกุลเงินเฟียตแบบดั้งเดิม (เช่น USD ที่เชื่อถือได้)
เช่นเดียวกับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ Stablecoin นั้นก็มีพื้นฐานอยู่บนบล็อกเชน ซึ่งเป็นฐานข้อมูลแบบกระจายอำนาจที่จัดเก็บข้อมูลในลักษณะเฉพาะ บล็อกเชนทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ต้องพึ่งพาศูนย์ข้อมูลเพียงแห่งเดียว เนื่องจากธุรกรรมแต่ละรายการและบัญชีแยกประเภทแต่ละรายการจะถูกเก็บไว้บนโหนดเฉพาะ (จุดตัด) ของเครือข่าย
แม้ว่าบิตคอยน์จะยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่ก็มีแนวโน้มที่จะประสบกับความผันผวนสูงในการประเมินมูลค่าของเหรียญ ตัวอย่างเช่น ราคาของเหรียญได้ปรับตัวขึ้นขึ้นจาก 30,000 ดอลลาร์เป็น 58,000 ดอลลาร์ ในช่วงระหว่างวันที่ 27 มกราคม ถึง 21 กุมภาพันธ์ 2021 แล้วจากนั้นก็ได้ปรับตัวลงจาก 64,650 ดอลลาร์เป็น 29,100 ดอลลาร์ ในช่วงระหว่างวันที่ 14 เมษายน ถึง 19 พฤษภาคม 2021 มันจึงไม่สะดวกเลยที่จะทำการชำระเงินด้วยตราสารที่มีความผันผวนเช่นนี้
ในทางกลับกัน Stablecoins นำเสนอทางออกที่มีความผันผวนน้อยกว่ามาก นั่นคือการใช้สินทรัพย์ในชีวิตจริงเป็นหลักประกัน ซึ่งชวนให้นึกถึงสกุลเงินเฟียตที่ผูกกับสินทรัพย์อ้างอิง เช่น ทุนสำรองระหว่างประเทศ
แม้ในบางกรณีร้ายแรง ในตอนที่มูลค่าของสกุลเงินเฟียตเกิดความผันผวนอย่างรุนแรง หน่วยงานควบคุมจะรีบเข้ามาดำเนินการปรับอุปทานและอุปสงค์ของสกุลเงินเพื่อรักษาเสถียรภาพของราคา Stablecoins จึงมุ่งหวังที่จะช่วยให้ผู้ซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลทุกคนสามารถค้นหาสถานที่ปลอดภัยได้ในช่วงเวลาที่เกิดความผันผวน
Stablecoins มีกี่ประเภท?
1. Stablecoins ที่ค้ำโดยสินค้าโภคภัณฑ์
Stablecoins ที่เชื่อมโยงกับสินค้าโภคภัณฑ์โดยทั่วไปแล้วจะถูกค้ำด้วยสินทรัพย์ที่มีตัวตนเพื่อให้คงเสถียรภาพได้ สินทรัพย์ที่มีตัวตนอาจรวมถึงอสังหาริมทรัพย์และทองคำ อย่างไรก็ตาม สินทรัพย์ที่มีตัวตนที่ถูกนำไปใช้เป็นหลักประกันให้กับ Stablecoin มากที่สุดก็คือทองคำ โดยหลาย Stablecoin ต่างก็ใช้โลหะมีค่าหลากหลายประเภท ตัวอย่างบางส่วนของโทเค็นดังกล่าวได้แก่ Tether Gold (XAU)
2. Stablecoins ที่ค้ำโดยสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัล
Stablecoin ที่มีหลักประกันเป็นสกุลเงินดิจิทัลนั้นจะถูกค้ำโดยสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลสำรองอาจประสบกับความผันผวนสูง จึงทำให้โดยทั่วไปแล้ว Stablecoin ประเภทนี้มี "หลักประกันมากเกินไป" นี่หมายความว่าจะต้องมีการเก็บโทเค็นสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากเอาไว้สำรองเพื่อค้ำสกุลเงินดิจิทัลที่มีเสถียรภาพจำนวนน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น อาจมีการเก็บ Ether มูลค่า 2,000 ดอลลาร์ ไว้เป็นเงินสำรองเพื่อออก Stablecoin ที่ถูกค้ำโดยสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งรองรับการเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินสำรอง (Ether) ได้ถึง 50%
3. Stablecoins ที่ค้ำโดยสกุลเงินเฟียต
Stablecoin ที่มีหลักประกันเป็นสกุลเงินเฟียตจะรักษาสำรองสกุลเงินเฟียต เช่น ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อค้ำการออกเหรียญสกุลเงินดิจิทัลในจำนวนที่เหมาะสม เหรียญประเภทนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากพวกมันถูกมองว่าเป็นเครื่องพิมพ์ของเศรษฐกิจสกุลเงินดิจิทัล แถมยังสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดที่มีความผันผวนอีกด้วย เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎระเบียบที่เข้มงวด เหรียญประเภทนี้จำเป็นต้องผ่านขั้นตอนการตรวจสอบ สกุลเงินดิจิทัลค้ำด้วยสกุลเงินเฟียตที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกคือ Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ซึ่งมีมูลค่ารวมมากกว่า 150 พันล้านดอลลาร์
4. อัลกอริทึม Stablecoins (การสร้างเงิน)
อัลกอริทึม Stablecoins จะใช้อัลกอริทึมในการเพิ่มหรือลดเงินสำรองสกุลเงินดิจิทัลโดยอัตโนมัติ เช่นเดียวกับที่ผู้จัดการอุปทานเงินในชีวิตจริงทำ ตอนนี้เหรียญประเภทหายไปเกือบหมดแล้วเนื่องจากกฎระเบียบ
5. สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง (CBDCs)
CBDC คือสกุลเงินดิจิทัลที่ถูกค้ำโดยธนาคารกลางของรัฐบาล มันเป็นรูปแบบของสกุลเงินที่รัฐเป็นผู้ค้ำประกันเช่นเดียวกับธนบัตร รัฐบาลจะเป็นผู้ค้ำเหรียญนี้ ไม่ใช่บริษัท หรือในกรณีของ Bitcoin ก็คือบล็อกเชน แต่เนื่องจาก CBDC นั้นเชื่อมโยงกับสกุลเงินของรัฐ มันจึงมีการผันผวนตามสกุลเงินดั้งเดิม แบบจำลอง CBDC ส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยหน่วยงานกลาง จีนเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวเงินหยวนของจีนในฐานะ CBDC ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 แต่มันยังไม่ได้รับความนิยมในชุมชนสกุลงินดิจิทัลเนื่องจากมีการรวมศูนย์ 100% และการขาดการไม่เปิดเผยตัวตน
ขอปรบมือให้กับ Tether!
Tether หรือ USDT คือสกุลเงินดิจิทัลที่มีมูลค่าทางการตลาดรวมสูงสุดและได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีมูลค่าทางการตลาดรวมมากกว่า 62,000 ล้านดอลลาร์!
Tether ถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างสกุลเงินเฟียตและสกุลเงินดิจิทัล โดยมอบความเสถียร ความโปร่งใส และค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่น้อยที่สุดให้แก่ผู้ใช้ โดยถูกตรึงไว้กับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ และรักษาอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 1 ต่อ 1 กับ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ
แต่ Tether เองก็มีข้อเสียเช่นกัน Tether ถูกกล่าวหาว่าขาดความโปร่งใสและทุนสำรองที่ใช้ค้ำประกันก็มีความคลาดเคลื่อน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ กำลังฟ้อง Tether โดยระบุว่าบริษัทดังกล่าวไม่มีเงิน USD เพียงพอที่จะเป็นหลักประกันให้กับทุก USDT ที่ออก อย่างไรก็ตาม บริษัทบัญชี Moore Cayman ได้รับรองรายงาน “สินทรัพย์และหนี้สิน” จาก Tether ในเดือนกุมภาพันธ์ ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2021 Tether ได้ถือครองสินทรัพย์มากกว่า 100% เพื่อรองรับการออก stablecoin ที่ถูกค้ำด้วยสกุลเงินทั่วไปและสินค้าโภคภัณฑ์ แต่สหรัฐอเมริกาก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะในอีกหกเดือนต่อมา กระทรวงยุติธรรมก็ขอการยืนยันทุนสำรอง ในวันที่ 9 สิงหาคม 2021 Tether ได้ออกรายงานการรับรองอีกครั้ง ซึ่งยืนยันอีกครั้งว่าทุนสำรองของพวกเขามีมากพอที่จะค้ำอย่างเต็มที่
มีความเสี่ยงอะไรบ้างไหม?
ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดของ Stablecoin น่าจะเป็นการรวมศูนย์ Stablecoins จะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน คุณไม่สามารถขุดมันเองได้เหมือนบิตคอยน์ หรือได้รับเป็นรางวัลสำหรับการเป็นสมาชิกที่ใช้งานเครือข่าย ดังนั้น แม้ว่านี่จะยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัล และธุรกรรมทั้งหมดจะปรากฏให้ทุกคนเห็นได้ ไม่สามารถย้อนกลับได้ และมีความปลอดภัย แต่การออกโทเค็นใหม่นั้นกลับอยู่ในมือของเพียงไม่กี่คนเท่านั้น ผู้คนบางส่วนได้กล่าวหาผู้ออก Stablecoin ว่าทำการปั่นตลาดสกุลเงินดิจิทัลเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
สกุลเงินดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมการเงินที่ยังมีอายุน้อยและมีความทะเยอทะยานที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสใหม่ ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่าพลาดโอกาสนั้นเชียวล่ะ!