หากคุณต้องการบรรลุความสำเร็จระดับสูงในด้านใดด้านหนึ่ง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ประวัติความเป็นมาที่เป็นรากฐาน มันเป็นความจริงที่เรียบง่ายและเป็นคำแนะนำที่แสนมีค่า บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดภายในปี 2023 ผู้ที่ค่อย ๆ ไต่ไปถึงจุดสูงสุดจนได้กลายมาเป็นมืออาชีพ เราได้รวบรวมลักษณะทั่วไปของเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้า และจะสร้างแรงบันดาลใจให้คุณได้พัฒนาตนเองในฐานะเทรดเดอร์ ดังสำนวนที่รู้จักกันดีที่ว่า จากดินไปสู่ดาว มาเริ่มกันเถอะ!
เทรดเดอร์ Forex ที่เก่งที่สุดทำเงินได้เท่าไร?
คำถามเรื่องเงินเดือนมักทำให้รู้สึกไม่สบายใจและดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ผิดจรรยาบรรณ แต่เราก็ไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นว่าเหล่าเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้านั้นทำเงินได้เท่าไร เพราะการซื้อขายเป็นการผจญภัยสุดลึกลับที่ต้องดำดิ่งลงไป ดังนั้น เทรดเดอร์มือใหม่จึงต้องการทราบถึงความเป็นไปได้ในการประสบความสำเร็จตามตัวอย่างของผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในตลาด Forex ในทางกลับกัน เทรดเดอร์ผู้ช่ำชองก็จะมุ่งความสนใจไปที่ผลกำไรที่อาจเกิดขึ้นของพวกเขา
โดยทั่วไป ผู้คนมักมองว่าเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้านั้นเป็นคนร่ำรวยที่มีทุกสิ่งที่ต้องการ ซึ่งมันก็ดูเหมือนจะเป็นความจริงเพราะหากเราพูดถึงเทรดเดอร์ Forex ที่สุดยอดที่สุด ผลกำไรที่พวกเขาทำได้รายปีหรือรายเดือนนั้นน่าทึ่งมาก ๆ เทรดเดอร์เหล่าทำเงินได้หลายพันล้านดอลลาร์เลยทีเดียว
ในความเป็นจริง ผลตอบแทนที่เทรดเดอร์ Forex ได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินลงทุนของพวกเขา สถิติระบุว่ามืออาชีพทำให้เงินทุนของพวกเขาเติบโตขึ้นได้ระหว่าง 5% ถึง 15% ต่อเดือนเลยทีเดียว! คิดเป็นค่าเฉลี่ยก็ประมาณ 10% ซึ่งในที่สุด เทรดเดอร์ก็จะได้รับถึง 120% ในช่วงสิ้นปี! ดังนั้น นี่หมายความว่าด้วยเงินทุน $100,000 เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าจะทำให้มันเติบโตขึ้นเป็น $220,000 ได้ เราใช้ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ใคร ๆ ก็รู้ว่าเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้าทำเงินได้ถึงหกหลักหรือมากกว่านั้นต่อปี! เรามาพูดคุยเกี่ยวกับชีวประวัติของบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจเหล่านี้กันเลยดีไหม?
จอร์จ โซรอส
เทรดเดอร์ทุกคนต่างก็คุ้นเคยกับชื่อของผู้ยิ่งใหญ่อย่างจอร์จ โซรอส (George Soros) เทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดที่ได้บรรลุความฝันของชาวอเมริกัน เขาคือบุคคลที่เทรดเดอร์ทุกคนต่างรับฟังคำแนะนำในการซื้อขายของเขาด้วยความตื้นตันใจ เป็นบุคคลที่คุณธรรมของเขาไม่มีที่สิ้นสุด
จอร์จ โซรอส ได้เกิดและเติบโตในครอบครัวชนชั้นกลางชาวฮังการีในปี 1930 ในช่วงแรก โซรอสยังห่างไกลจากการซื้อขายและกำลังเรียนรู้เรื่องเศรษฐกิจผ่านเกมกระดานสำหรับเด็ก ๆ จากนั้น สงครามก็ได้ปะทุขึ้นและเผด็จการได้เข้าปกครอง ทำให้เจ้าหนูจอร์จและครอบครัวต้องอพยพไปอยู่ที่อังกฤษ ในสหราชอาณาจักร มหาเศรษฐีในอนาคตท่านนี้ได้ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟ แถมยังต้องกินของเหลือเพื่อประทังชีวิต นอกจากนี้เขายังได้ทำงานเป็นจิตรกรและคนเก็บแอปเปิ้ลในสวนก่อนที่จะเข้าเรียนที่ London School of Economics
อย่างไรก็ตาม หลังสำเร็จการศึกษา จอร์จ โซรอสได้ประสบปัญหาตกงานในสาขาอาชีพของเขา เนื่องจากเขาเป็นคนงานที่ไม่มีประสบการณ์ เขาต้องทำงานทุกอย่างที่เขาทำได้ ในที่สุด เขาก็โชคดีได้ตำแหน่งเด็กฝึกงานในธนาคารที่ความสำเร็จในตำนานของเขาได้เริ่มต้นขึ้น
ในปี 1956 นักเศรษฐศาสตร์หนุ่มได้ย้ายไปสหรัฐอเมริกาและทำงานเป็นเทรดเดอร์เก็งกำไร หรือที่เรียกว่าเทรดเดอร์อาร์บิทราจ (Arbitrage trader) ให้กับ F.M. Mayer ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นยุโรปของประชาคมถ่านหินและเหล็กกล้าแห่งยุโรปที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุนสถาบันของสหรัฐฯ ในปี 1969 จอร์จ โซรอส ได้เป็นผู้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์แห่งแรกของเขา ชื่อว่า Double Eagle (ซึ่งในภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Quantum Fund) ในปี 1970 โซรอสได้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า Soros Fund Management
และแล้ววันหนึ่งก็ได้พลิกชีวิตของเขาจากหน้ามือเป็นหลังมือ ซึ่งวันที่ว่านั้นมีชื่อว่า "Black Wednesday" ในวันพุธ ปี 1992 โซรอสได้เปิดสถานะ Short ขนาดมหึมากับสกุลเงินปอนด์อังกฤษ ซึ่งทำรายได้ได้มหาศาลถึง $1 พันล้าน! ในปี 1993 จอร์จ โซรอส ได้กำไรมากที่สุดใน Wall Street โซรอสได้ใช้ข้อมูลเศรษฐศาสตร์มหภาคในการตรวจสอบปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อวิเคราะห์ตลาดและกำหนดจังหวะเข้าและออกที่ดีที่สุด
นอกจากการเก็งกำไรทางการเงินแล้ว โซรอสยังเป็นคนใจบุญที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ได้บริจาคเพื่อการกุศลไปอย่างน้อยประมาณ $3.2 หมื่นล้าน ในกว่า 25 ประเทศ
ในปี 2023 ความมั่งคั่งของจอร์จ โซรอส อยู่ที่ประมาณ $6.7 พันล้าน
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller) เป็นบุคคลที่นับว่าเป็นปรากฎการณ์แห่งโลกการเงิน ปัจจุบันเขาเป็นมหาเศรษฐีชาวอเมริกัน นักลงทุน เทรดเดอร์ และผู้ก่อตั้ง Duquesne Capital ดรัคเคนมิลเลอร์เป็นหนึ่งในนักเศรษฐศาสตร์ที่อยู่ระดับแนวหน้าและประสบความสำเร็จมากที่สุดใน Wall Street
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ ได้เติบโตในครอบครัวชาวอเมริกันที่มีชีวิตเรียบง่าย ในปี 1975 เขาได้รับปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษและเศรษฐศาสตร์จาก Bowdoin College จากนั้นเขาก็ได้เข้าศึกษาต่อที่ University of Michigan เพื่อเรียนต่อปริญญาเอก ในสาขาเศรษฐศาสตร์ แต่เขาก็ดรอปเรียนไปกลางคันแล้วได้หันไปประกอบอาชีพเป็นนักวิเคราะห์น้ำมันที่ Pittsburgh National Bank ในปี 1997 นักเศรษฐศาสตร์จบใหม่นี้ได้กลายเป็นหัวหน้าแผนกวิจัยของธนาคารและได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองชื่อ Duquesne Capital ในอีกสี่ปีต่อมา
ในปี 1988 จอร์จ โซรอส ได้มองเห็นศักยภาพของสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ จึงได้ว่าจ้างเขาให้ไปทำงานที่ Quantum Fund หลังจากนั้นไม่นาน ดรัคเคนมิลเลอร์และโซรอสก็ได้ “ทำลายธนาคารกลางอังกฤษ” ในปี 1992 ด้วยการขายชอร์ตเงินปอนด์อังกฤษเป็นจำนวนเงินประมาณห้าพันล้านปอนด์อังกฤษ และทำกำไรได้ถึง $1 พันล้าน
หลังจากที่ลาออกจาก Quantum Fund ในปี 2000 สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ ได้เริ่มก่อตั้งกองทุน Duquesne Capital ของเขาเองซึ่งสร้างกำไรได้มหาศาล
สแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ เป็นเทรดเดอร์ Forex ที่มีพรสวรรค์ ความสามารถในการทำนายตลาดและใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวนั้นได้ด้วยความเร็วแสงของเขาเป็นที่น่าประทับใจสุด ๆ ดรัคเคนมิลเลอร์ระบุว่าเทรดเดอร์ควรปิดคำสั่งซื้อขายที่ขาดทุนทันที และควรใช้โอกาสที่โชคดีให้เต็มประสิทธิภาพ เขายังเชื่อว่าความยืดหยุ่นและการกระจายพอร์ตการลงทุนนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จและความมั่นคง
สำหรับตอนนี้ ความมั่งคั่งสุทธิของสแตนลีย์ ดรัคเคนมิลเลอร์ อยู่ที่ประมาณ $6.4 พันล้าน
โจ ลูวิส
โจ ลูวิส (Joe Lewis) เป็นเทรดเดอร์ Forex ชาวอังกฤษที่มีประวัติอันน่าตื่นเต้น ปัจจุบัน เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหราชอาณาจักร และความมั่งคั่งสุทธิของเขาอยู่ที่ประมาณ $5.6 พันล้าน
โจ ลูวิส ได้เริ่มทำงานในตอนที่มีอายุเพียง 15 ปี โดยช่วยดูแลธุรกิจจัดเลี้ยงของครอบครัว ตั้งแต่นั้นมา เขาได้พยายามปรับปรุงธุรกิจในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ และในที่สุดก็ประสบความสำเร็จในการขายธุรกิจนี้ออกไปในราคา 30 ล้านปอนด์ ทำให้เขาได้กลายเป็นเศรษฐีเงินล้านตั้งแต่ก่อนที่เขาจะเริ่มอาชีพ Forex เสียอีก
ลูวิสได้ประสบความสำเร็จที่ยากจะปฏิเสธใน "Black Wednesday" ในปี 1992 พร้อมกับเทรดเดอร์ระดับตำนานที่เราได้กล่าวถึงไปแล้วในบทความนี้ เทรดเดอร์ท่านนี้ไม่ได้หยุดเพียงแค่นี้ เพราะในอีก 3 ปีต่อมา เขาได้กำไรได้มหาศาลจากการขายชอร์ตเงินเปโซเม็กซิกันในปี 1995 ไม่ต้องสงสัยเลยว่า กลยุทธ์แห่งชัยชนะของเขาคือการขายชอร์ตสกุลเงินในตอนที่มันอยู่ในสภาวะที่ย่ำแย่ที่สุด
โจ ลูวิส กล่าวว่าเทรดเดอร์ควรเพิ่มการยอมรับความเสี่ยงของพวกเขา ให้ความสนใจกับขนาดของตำแหน่งและเดิมพันในสกุลเงินต่าง ๆ ที่มีสภาพคล่อง ตำนานท่านนี้เชื่อว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนนั้นเป็นกุญแจสำคัญ
สตีเวน โคเฮน
สตีเวน โคเฮน (Steven Cohen) เป็นหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกโดยอยู่ในอันดับที่ 92 ในรายชื่อมหาเศรษฐีโลกในนิตยสาร Forbes ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2023 ความมั่งคั่งสุทธิของโคเฮนอยู่ที่ประมาณ $17.5 พันล้าน
มหาเศรษฐีในอนาคตท่านนี้ได้เกิดและเติบโตในครอบครัวที่มีลูกหลายคนที่ทำธุรกิจผู้ผลิตเสื้อผ้าและเป็นครูสอนเปียโน สตีเวน โคเฮน ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ที่ University of Pennsylvania ในปี 1978 ในตอนที่เรียนอยู่ เขาชอบเล่นโป๊กเกอร์มาก ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการยอมรับความเสี่ยง การมีไหวพริบปฏิภาณ และความสามารถในการมีสมาธิจดจ่อ
หลังสำเร็จการศึกษา โคเฮนได้กลายเป็นเทรดเดอร์รุ่นเยาว์ในแผนก Options arbitrag ที่ Gruntal & Co. โดยเขาได้ทำกำไรให้บริษัทได้ทันทีถึง $8,000 กำไรที่เขาได้ทำให้กับบริษัทนั้นเพิ่มขึ้นเร็วมาก ในไม่ช้า เทรดเดอร์หนุ่มคนนี้ก็ได้รับตำแหน่งผู้จัดการพอร์ตการลงทุนมูลค่า $75 ล้าน พร้อมเทรดเดอร์อีก 6 คน
ในปี 1992 เมื่อสตีเวน โคเฮน มีอายุ 35 ปี เขาได้ก่อตั้งกองทุนเฮดจ์ฟันด์ S.A.C. Capital Advisors ในปี 2009 บริษัทได้จัดการเงินทุนไปถึง $14 พันล้าน
ตั้งแต่ปี 2008 โคเฮนได้ประสบปัญหาทั้งด้านการเงินและกฎหมาย แม้ว่าจะโดนกฎหมายห้ามและถูกปรับ แต่เขาก็ยังคงเพิ่มพูนความมั่งคั่งและได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้าของโลก
อะไรที่เป็นเคล็ดลับความสำเร็จของโคเฮน? ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าชายคนนี้สัมผัสได้ถึงแกนหลักของตลาดและมั่นใจว่าการทำงานเป็นทีมที่ประสานงานกันเป็นอย่างดีนั้นมีความสำคัญต่อการซื้อขาย กระบวนการทำงานใน S.A.C. นั้นคำนึงถึงรายละเอียดที่เล็กที่สุดและมีเป้าหมายเพื่อรักษาการทำงานเป็นทีมที่มีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น โคเฮนเชื่อว่าการเรียนรู้รายละเอียดทางเศรษฐกิจของการซื้อขายนั้นไม่จำเป็น เขาซื้อขายอย่างรวดเร็วและแน่ใจว่ากราฟกำลังควบคุมตลาด
บิล ลิปชุตซ์
เทรดเดอร์ Forex ทุกคนต่างก็รู้จัก บิล ลิปชุตซ์ (Bill Lipschutz) สุดยอดเทรดเดอร์ที่ได้ไปถึงจุดสูงสุดของตลาด Forex ลิปชุตซ์เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการพอร์ตการลงทุนของ Hathersage Capital Management ความมั่งคั่งสุทธิในปัจจุบันของเขาอยู่ที่ประมาณ $2 พันล้าน
บิล ลิปชุตซ์ เติบโตในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เขาเป็นเด็กอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ด้านคณิตศาสตร์ จากนั้น ลิปชุตซ์ได้เข้าศึกษาระดับปริญญาตรีที่ Cornell University ที่ที่เขาได้เริ่มต้นเส้นทางการซื้อขายด้วยหุ้นที่ได้รับสืบทอดมาซึ่งมีมูลค่า $12,000 และสามารถเปลี่ยนให้กลายเป็นพอร์ตมูลค่า $250,000 ได้ในเวลาไม่นาน แม้จะเป็นการเริ่มต้นที่โชคดี แต่เทรดเดอร์หนุ่มก็มีทั้งขาขึ้นและขาลง เนื่องจากการขาดประสบการณ์ ขาดการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม และมั่นใจมากเกินไป ทำให้ลิปชุตซ์ได้ประสบกับการสูญเสียอย่างต่อเนื่องและสูญเสียไปเกือบทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ละทิ้งความฝันของเขาและยังคงพัฒนาต่อไปในฐานะเทรดเดอร์
ในปี 1982 บิล ลิปชุตซ์ ได้กลายเป็นสมาชิกทีม Salomon Brothers และไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้รับตำแหน่งในแผนก Forex ที่เพิ่งเปิดใหม่ ลิปชุตซ์ไม่ปล่อยให้บริษัทรอนานเกินไปและได้เริ่มทำเงินให้บริษัทได้ประมาณ $300 ล้านต่อปี
ในปี 1990 คุณลิปชุตซ์ได้ออกจาก Salomon Brothers และจนถึงปี 1995 ก็ได้เปลี่ยนบริษัทไปเรื่อย ๆ โดยคงอยู่ในตำแหน่งหัวหน้า
ในปี 1995 เทรดเดอร์ท่านนี้ได้ก่อตั้งบริษัทการลงทุนของตัวเอง Hathersage Capital Management LLC โดยที่เขาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าและผู้อำนวยการของ Portfolio Management ลิปชุตซ์และทีมงานของเขาทำงานกับสกุลเงิน G10 และทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำอย่างต่อเนื่อง มีข่าวลือว่ารายได้ต่อวันของบริษัทนั้นมากถึง $250,000 เลยทีเดียว
บิล ลิปชุตซ์ เชื่อว่าอัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทนมีความสำคัญต่อการซื้อขาย เขากล่าวว่าอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยงที่สมบูรณ์แบบคือ 3:1 โดยทุก ๆ $1 ที่เสี่ยงไป เทรดเดอร์ควรทำกำไรได้ $3 ผู้เชี่ยวชาญท่านนี้แนะนำให้คุณกำหนดจุด Stop Loss และจุด Take Profit พัฒนาวินัยในการซื้อขาย และทำงานด้วยปัญญาอยู่เสมอ
แอนดี้ ครีเกอร์
ทุกคนที่ต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับเทรดเดอร์ Forex ระดับแนวหน้าของโลกควรอ่านเรื่องราวของ แอนดี้ ครีเกอร์ (Andy Krieger) ชายคนนี้มีชื่อเสียงในด้านการซื้อขายที่ดุดันและทำลายธนาคารกลางนิวซีแลนด์ ซึ่งเขาทำกำไรได้ $300 ล้าน ให้กับ Bankers Trust ซึ่งเป็นบริษัทที่เขาทำงานด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 1987 ครีเกอร์ได้เปิดสถานะ short ขนาดมหึมาต่อ NZD ซึ่งได้ทำลายล้างเงินสำรองทั้งหมดของนิวซีแลนด์ ในที่สุด การขาดเงินตราประจำชาติของนิวซีแลนด์ก็ได้ทำให้ค่าเงิน NZD ร่วงลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้แอนดี้ ครีเกอร์ได้สร้างความมั่งคั่งเหลือพรรณนาให้กับ Bankers Trust
แอนดี้ ครีเกอร์ กล่าวว่าการวิเคราะห์ตลาดอย่างครอบคลุมนั้นไม่อาจแทนที่ได้ด้วยสิ่งอื่นใดในการพิจารณาความเคลื่อนไหวที่อาจเกิดขึ้นและทำการซื้อขายที่ชนะ
ความมั่งคั่งสุทธิของแอนดี้ ครีเกอร์ ไม่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณะ
บรูซ โคฟเนอร์
บรูซ โคฟเนอร์ (Bruce Kovner) ถือกำเนิดเกิดมาในครอบครัวที่อพยพมาจากรัสเซียไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เขาเป็นเด็กที่เปี่ยมด้วยความสามารถ จบการศึกษาระดับมัธยมปลายด้วยเกียรตินิยม ในขณะที่ศึกษาอยู่ที่ Harvard University โคฟเนอร์ยังคงแสดงความยืดหยุ่นในการเปลี่ยนงานและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ตั้งแต่การเล่นฮาร์ปซิคอร์ดไปจนถึงการเล่นการเมือง
ในปี 1977 บรูซ โคฟเนอร์ ได้เริ่มต้นอาชีพการซื้อขายโดยการทวีคูณเงินทุนของเขาเป็น $20,000 ด้วยการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลือง
จากนั้น โคฟเนอร์ก็ได้งานใน Commodities Corporation โดยเป็นที่ที่เขาได้ประสบความสำเร็จในการทำกำไรมูลค่าหลายล้านให้กับบริษัทภายใต้การนำของไมเคิล มาร์คัส (Michael Markus)
ในปี 1983 บรูซ โคฟเนอร์ ได้ก่อตั้ง Caxton Associates ซึ่งเป็นบริษัทกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Global Macro ของเขาเอง บริษัทได้เจริญรุ่งเรืองไปถึงขีดสุด ด้วยปริมาณการลงทุนสูงถึงประมาณ $1.4 หมื่นล้าน นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาระงับการรับเงินฝากใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจ
ในช่วงแรก ๆ โคฟเนอร์และทีมของเขาได้ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์น้ำมัน เกลือ และทองแดงล่วงหน้า อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเติบโตของกองทุนของบริษัท เขาจึงได้ตัดสินใจซื้อขายในตลาดที่มีสภาพคล่องสูงขึ้นโดยเลือกซื้อขายที่ตลาด Forex ในช่วงปลายทศวรรษที่ 80 ส่วนแบ่งกำไรจากการซื้อขายสกุลเงินมีมากกว่า 50%
ในฐานะเทรดเดอร์ระดับตำนานคนหนึ่ง บรูซ โคฟเนอร์ คิดว่ากุญแจสู่ความสำเร็จคือการสร้างแผนการจัดการความเสี่ยงที่เชื่อถือได้และรู้จุดออกของคุณก่อนที่จะเปิดสถานะ
จากข้อมูลของ Forbes ความมั่งคั่งสุทธิในปัจจุบันของบรูซ โคฟเนอร์ อยู่ที่ $6.6 พันล้าน
สิ่งใดที่จะช่วยทำให้เทรดเดอร์ Forex เก่งกาจได้?
ตอนนี้คุณก็ได้รู้เกี่ยวกับชีวประวัติโดยย่อของเทรดเดอร์ Forex ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดกันแล้ว บางทีในขณะที่อ่าน คุณอาจสังเกตเห็นลักษณะทั่วไปบางประการของเทรดเดอร์เหล่านี้ที่ช่วยให้พวกเขาก้าวไปสู่จุดสูงสุดได้
วินัยในการซื้อขาย
เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าทุกคนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำคัญของวินัยในการซื้อขาย เทรดเดอร์ Forex ต้องมีระเบียบวินัยในทุกวิถีทาง เพราะการควบคุมตนเองและการจัดการตนเองเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาอยู่รอดได้ในระยะยาวและได้รับผลตอบแทนอย่างมั่นคง เทรดเดอร์ทุกคนต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญของแผนการจัดการความเสี่ยงที่เชื่อถือได้ ในฐานะที่มันเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบวินัยในการซื้อขาย
การยอมรับความเสี่ยง
ดังที่โจ ลูวิสได้กล่าวไว้ การยอมรับความเสี่ยงนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เทรดเดอร์ที่ชนะคือคนที่ยอมรับความเสี่ยงและยอมรับการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้
ความมั่นใจ
เทรดเดอร์ Forex ที่เก่งที่สุดมักจะมั่นใจเสมอในตอนที่พวกเขาต้องอดทนต่อแรงกดดันของตลาดและความไม่แน่นอน มันเป็นความมั่นใจที่ช่วยให้เทรดเดอร์ Forex บรรลุเป้าหมายและประสบความสำเร็จได้ ซึ่งจะอาศัยการวิเคราะห์ของพวกเขาเองและการไม่ใส่ใจผู้คนหมู่มาก
ความมุ่งมั่น
เทรดเดอร์ระดับแนวหน้าจะขยายขอบเขตการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง ลงทุนทั้งเวลาและความพยายาม โดยการที่จะประสบความสำเร็จได้ คุณต้องรักในสิ่งที่คุณทำและพร้อมที่จะอุทิศตนอย่างเต็มที่
การควบคุมอารมณ์
ลักษณะสำคัญของเทรดเดอร์ระดับแนวหน้าคือการรู้วิธีควบคุมอารมณ์และคงความเยือกเย็นและไม่มีอคติในตอนที่กลัวตกรถหรืออารมณ์ที่เกิดขึ้นแบบสุ่ม ๆ ที่ทำให้จิตใจของเขาขุ่นมัว
ความอดทน
เนื่องจากตลาด Forex นั้นไม่ง่ายที่จะคาดเดา ดังนั้นมันอาจไม่มีจุดเข้าที่ดี เทรดเดอร์ที่เก่งที่สุดจะรอจังหวะที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หลายวัน หรือหลายสัปดาห์ก็ตาม
การทำงานเป็นทีม
เทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จทุกคนต่างตระหนักดีถึงความสำคัญของความเป็นทีม เมื่อคุณมีผู้สนับสนุนที่คุณสามารถแบ่งปันความคิด ขอความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาผ่านความพยายามร่วมกันได้ การซื้อขายให้ประสบความสำเร็จและเติบโตในฐานะเทรดเดอร์นั้นก็จะง่ายขึ้นเยอะมาก
สรุป
สรุปแล้ว เทรดเดอร์ Forex ที่เก่งที่สุดทุกคนต่างก็มีผลลัพธ์ที่เป็นแรงบันดาลใจและน่าตกตะลึง โดยทั่วไปแล้ว คนเหล่านี้มาจากครอบครัวชนชั้นกลางทั่วไปและได้ทำงานหนักตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่นเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นถึงไหวพริบ ความอดทน ความสามารถในการรับความเสี่ยง และการควบคุมอารมณ์ของตนได้อย่างต่อเนื่อง ในบรรดาเทรดเดอร์เหล่านี้ บางคนก็มีจิตใจที่ดีมาก ๆ และบริจาคเงินมหาศาลเพื่อประโยชน์ของสังคม หากคุณเป็นเทรดเดอร์ Forex ที่ต้องการประสบความสำเร็จในขั้นสูง การเรียนรู้เส้นทางของผู้ที่ประสบความสำเร็จและพิชิตโลกนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อขายกับ FBS อย่าพลาดโอกาสในการติดตาม Instagram และช่อง Telegram ของเรา