สมุดคำสั่งซื้อขายนำความโปร่งใสมาสู่ตลาด แต่ไม่ได้แสดงทุกอย่าง หากผู้เล่นรายใหญ่ เช่น ธนาคารหรือเฮดจ์ฟันด์ ต้องการวางคำสั่งซื้อขายขนาดมหาศาล พวกเขาจะทำใน "ดาร์กพูล" แทนที่จะใช้สมุดคำสั่งซื้อขาย เพื่อป้องกันตลาดจากการตกต่ำอย่างรวดเร็ว เมื่อบริษัทใหญ่ ๆ วางคำสั่งซื้อจำนวนมากและเปิดเผยการทำธุรกรรมของพวกเขา รายงานเหล่านั้นจะทำให้ตลาดเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่แน่นอน การปกปิดสิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นจากการคาดการณ์คำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่เหล่านั้น เพราะเหตุนี้ เทรดเดอร์จึงไม่มีทางรู้แน่ชัดว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นในสมุดคำสั่งซื้อขายนั้นคือทั้งหมดที่มีอยู่จริงหรือไม่
สมุดคำสั่งซื้อขายขั้นสูง
แพลตฟอร์มการซื้อขายบางแห่งเสนอสมุดคำสั่งซื้อขายที่มีรายละเอียดมากกว่า ซึ่งรวมถึงข้อมูลที่มากกว่าสมุดคำสั่งซื้อขายแบบดั้งเดิม โดยมีค่าธรรมเนียม
สมุดคำสั่งซื้อขายแบบขั้นสูงจะแสดงทุกระดับราคา ไม่ใช่แค่ 5 หรือ 10 อันดับแรกเหมือนแบบดั้งเดิม สมุดคำสั่งซื้อขายเหล่านี้ยังสามารถแสดงสิ่งที่เรียกว่า "ภูเขาน้ำแข็ง" (iceberg) ได้ด้วย ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่ที่ถูกซ่อนไว้ในรูปแบบของคำสั่งย่อย ๆ จำนวนมาก นี่คือกรณีที่ผู้เล่นรายใหญ่จะส่งคำสั่งซื้อขาย 10 ครั้ง ครั้งละ 1,000 หุ้น แทนที่จะส่งคำสั่งเดียวในจำนวน 10,000 หุ้น เพื่อไม่ให้เทรดเดอร์รายอื่นจับทิศทางความตั้งใจของพวกเขาได้
ข้อมูลเพิ่มเติมแบบนี้อาจไม่สำคัญมากนักสำหรับนักลงทุนทั่วไปที่ซื้อหุ้นแล้วถือยาว แต่มันจะสร้างความแตกต่างอย่างมากสำหรับมืออาชีพและเทรดเดอร์รายวันที่ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็วตามความเคลื่อนไหวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตลาด มันให้เครื่องมือเพิ่มเติมเพื่อประกอบการตัดสินใจของพวกเขา
ทำไมสมุดคำสั่งซื้อขายจึงมีความสำคัญ?
สมุดคำสั่งซื้อขายจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพตลาดปัจจุบันแก่เทรดเดอร์ ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาตัดสินใจเทรดได้อย่างมีข้อมูลมากขึ้น
เทรดเดอร์สามารถใช้สมุดคำสั่งซื้อขายเพื่อตรวจสอบความไม่สมดุลของคำสั่งซื้อ-ขาย ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น ตัวอย่างเช่น หากมีคำสั่งซื้อมากกว่าคำสั่งขายอย่างเห็นได้ชัด นี่อาจเป็นสัญญาณของโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น เนื่องจากแรงซื้อที่ผลักดันให้ราคาสูงขึ้น
สมุดคำสั่งซื้อขายยังมีประโยชน์ในการช่วยระบุแนวต้านและแนวรับที่เป็นไปได้อีกด้วย หากมีคำสั่ง buy limit จำนวนมากที่หรือใกล้เคียงบริเวณระดับราคาใดราคาหนึ่ง นี่อาจเป็นสัญญาณของแนวรับที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหมายความว่าหุ้นอาจดีดตัวกลับขึ้นจากระดับราคานั้น สิ่งนี้ทำงานเช่นเดียวกันกับคำสั่งขาย หากมีปริมาณคำสั่งขายจำนวนมหาศาลรอบ ๆ ระดับราคาใดระดับหนึ่ง นี่อาจบ่งชี้ถึงแนวต้านที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งหมายความว่าหุ้นอาจมีปัญหาในการทะลุบริเวณราคานั้นเพื่อปรับตัวสูงขึ้นต่อไป