ถามสามคำถามง่าย ๆ ก่อนที่คุณจะเชื่อใจโซนนั้น:
มันทำลายโครงสร้างตลาดหรือไม่?
มันได้สร้างความกลัวหรือความตื่นเต้นบนกราฟหรือไม่?
ปริมาณการซื้อขายพุ่งเมื่อมันก่อตัวหรือไม่?
หากคำตอบของคำถามเหล่านี้คือไม่ โซนนั้นอาจเป็นแค่สัญญาณหลอก จงจดจ่อกับโซนที่เปลี่ยนแนวโน้มในกราฟบนกรอบเวลาสูง ๆ และอย่าสนใจการหยุดพักเล็ก ๆ กลางทาง
รูปแบบอุปสงค์และอุปทาน
มีอยู่ 4 รูปแบบพื้นฐานที่ช่วยให้เทรดเดอร์ระบุจุดที่ราคาอาจกลับตัวหรือเคลื่อนที่ต่อ แต่ละรูปแบบมีชื่อเรียบง่ายที่อธิบายลักษณะการเคลื่อนไหวของแท่งเทียนบนกราฟ

รูปแบบ Drop-Base-Rally (DBR) ราคาร่วงลงอย่างรวดเร็ว หยุดพักในกรอบเล็ก ๆ แล้วพุ่งขึ้นแรง ๆ ผู้ขายดูอ่อนล้า ส่วนผู้ซื้อเข้ามาด้วยสถานะขนาดใหญ่ เทรดเดอร์หลายคนจะเปิดสถานะ Long เมื่อราคาย้อนกลับมาทดสอบฐานเป็นครั้งแรกอย่างชัดเจน
รูปแบบ Rally-Base-Drop (RBD) ราคาพุ่งขึ้นเร็ว หยุดนิ่งในฐาน แล้วร่วงลงแรง ๆ ผู้ซื้อหมดแรง ผู้ขายเริ่มเข้าครอบงำ เทรดเดอร์ที่เข้าซื้อช้าติดกับ มักเป็นโอกาสดีสำหรับการเปิดสถานะ short เมื่อราคาดึงกลับ

รูปแบบ Rally-Base-Rally (RBR) ราคาพุ่งขึ้น หยุดพักฐาน แล้วเร่งขึ้นต่อ แสดงถึงความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง เทรดเดอร์มักมองหาจุดเข้าซื้อเมื่อราคากลับมาทดสอบที่ฐานอีกครั้ง ในขณะที่แนวโน้มใหญ่ยังคงเป็นขาขึ้น
รูปแบบ Drop-Base-Drop (DBD) ราคาร่วง หยุดพักฐาน แล้วร่วงต่อ แรงขายที่ยังคงแข็งแกร่งแสดงให้เห็นว่าฝ่ายขายยังคงครองตลาด การเปิดสถานะ Short ตามการเคลื่อนไหวของตลาดเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล โดยเฉพาะเมื่อโซนนั้นยังสะอาด และไม่เคยถูกทดสอบมาก่อน
กรอบเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเทรดตามอุปสงค์และอุปทาน
การเทรดตามอุปสงค์และอุปทานจะง่ายที่สุดเมื่อคุณอ่านกราฟดุจอ่านแผนที่ โดยเริ่มจากมุมมองกว้างเพื่อดูว่าสถานะขนาดใหญ่อยู่ที่ใด จากนั้นซูมเข้าเพื่อวางแผนจุดเข้าแบบเจาะจง แต่ละกรอบเวลามีบทบาทชัดเจนในกระบวนการแบบลงรายละเอียดจากภาพใหญ่สู่ภาพย่อยนี้
1. กำหนดโครงสร้าง — กรอบเวลา 4H/1H
ใช้กราฟ 4 ชั่วโมงหรือ 1 ชั่วโมงเพื่อหาโซนที่แข็งแกร่ง ระดับเหล่านี้ก่อตัวหลังจากการสร้างหลายแท่งเทียน จึงมีความสำคัญมากกว่าการแกว่งตัวเร็วในกรอบเวลาที่ต่ำกว่า ให้ทำเครื่องหมายทุกโซนที่ชัดเจนก่อนจะไปขั้นตอนต่อไป
2. ยืนยันปฏิกิริยา — กรอบเวลา 1H/15M
ลดลงมาดูที่กรอบเวลา 1 ชั่วโมงหรือ 15 นาที เพื่อสังเกตปฏิกิริยาของราคา มองหาไส้เทียนยาว ๆ การดีดตัวกลับรุนแรง การทะลุหลอก หรือการดูดซับที่ชัดเจน สัญญาณเหล่านี้บอกคุณว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายยังคงปกป้องโซนอยู่
3. กำหนดจังหวะเข้า — กรอบเวลา 15M/5M
สุดท้าย เมื่อพร้อมดำเนินการ ให้เปลี่ยนไปดูกรอบเวลา 15 นาทีหรือ 5 นาที รอให้เกิดแท่งเทียนกลับตัว การเปลี่ยนแปลงของปริมาณการซื้อขายอย่างฉับพลัน หรือสัญญาณอื่น ๆ ที่ชัดเจน ตั้งจุดตัด stop loss ให้แคบ และกำหนดเป้าหมายให้สมจริง
ตารางด้านล่างจะสรุปขั้นตอนการทำงานนี้ เพื่อให้คุณเห็นบทบาทหลักของแต่ละกรอบเวลาและสัญญาณที่ต้องสังเกต
กรอบเวลา | บทบาทหลัก | สัญญาณที่ต้องดู |
4H/1H | กำหนดโครงสร้าง | โซนอุปทานและอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง |
1H/15m | ยืนยันปฏิกิริยา | ไส้เทียน การปฏิเส, การหลอกลวง การดูดซับ |
15m/5m | กำหนดจังหวะเข้า | แท่งเทียนกลับตัว การเปลี่ยนแปลงปริมาณการซื้อขาย การตั้งค่า Stop Loss ที่แม่นยำ |
กลยุทธ์การเทรดโดยใช้โซนอุปทานและอุปสงค์
การเทรดด้วยโซนอุปทานและอุปสงค์จะเน้นไปที่ระดับที่ชัดเจนซึ่งผู้ซื้อหรือผู้ขายแสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริง กุญแจสำคัญคือการสังเกตวิธีที่ราคาออกจากโซนนั้น การออกจากโซนอย่างแข็งแกร่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่อาจจะดำเนินต่อไป ในขณะที่การออกจากโซนอย่างอ่อนแออาจส่งสัญญาณการกลับตัว เมื่อคุณรู้ว่าฝ่ายใดมีอำนาจเหนือกว่า คุณก็สามารถวางแผนเข้าสู่ตลาดเมื่อราคากลับมาทดสอบโซนนั้นอีกครั้ง

ตัวอย่าง: รูปแบบ Drop-Base-Rally (DBR)
ราคาตกลงอย่างรวดเร็ว หยุดพักในฐานที่แคบ จากนั้นก็พุ่งขึ้นแรง การหยุดพักนั้นจะกลายเป็นโซนอุปสงค์ เพราะผู้ซื้อเข้ามาดูดซับทุกคำเสนอขายในจุดนั้น หลังจากที่ราคาทะลุออกไปแล้ว ราคามักจะย้อนกลับมาด้วยไส้เทียนแบบรวดเร็ว ทำให้คุณมีโอกาสตั้งคำสั่ง buy limit วางคำสั่งสต็อปของคุณไว้ต่ำกว่าไส้ที่ต่ำที่สุดเพื่อป้องกันการกวาดลึกลงไปอีก
สำหรับเป้าหมาย ให้ใช้เครื่องมือฟีโบนัชชีบนช่วงการเคลื่อนไหวหลัก โดยเล็งเป้าหมายแรกที่ระดับ 1.272 หากโมเมนตัมยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ให้ขยายเป้าหมายไปที่ระดับ 1.618 การตั้งค่านี้ทำงานได้ดีที่สุดในตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจน หรือหลังเหตุการณ์ข่าวสำคัญ เมื่อแรงขับเคลื่อนใหม่สามารถผลักดันราคาไปในทิศทางที่คุณต้องการ
ความเสี่ยง ข้อจำกัด และความเข้าใจผิด
โซนอุปสงค์และอุปทานให้แผนที่ที่ชัดเจน แต่ไม่ใช่การรับประกัน ราคาอาจเคารพโซนหนึ่งครั้ง แต่ไม่สนใจในครั้งต่อไป โดยเฉพาะหลังจากที่การกลับไปทดสอบหลายครั้งได้กลืนกินสถานะที่ค้างอยู่ไปหมดแล้ว
เทรดเดอร์หลายคนตกอยู่ในกับดักเดิม ๆ พวกเขาเทรดทุกโซนทันทีที่ราคาสัมผัส แม้ในช่วงเวลาตลาดเอเชียที่เงียบสงบและมีปริมาณการซื้อขายต่ำ บางคนก็ซื้อที่โซนอุปสงค์ในแนวโน้มขาลงที่แข็งแกร่ง หรือคิดไปเองว่าโซนนั้นเป็นเส้นที่แน่นอนแทนที่จะเป็นพื้นที่กว้าง ๆ
โซนเพียงบ่งชี้ว่าอาจมีสถานะขนาดใหญ่รออยู่ การที่ราคาจะทรงตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับกระแสคำสั่งซื้อใหม่ ข่าวสารในตลาด และแนวโน้มภาพรวม โดยโซนนั้นเป็นบริเวณที่ราคาอาจเกิดปฏิกิริยา เนื่องจากมันแทบไม่เคยหยุดที่จุดใดจุดหนึ่งอย่างแม่นยำ